ความเจ็บป่วยที่มองไม่เห็นเรื้อรัง - ใช่เรามีเสียง
คุณได้ยินคำว่า“ คุณไม่สบาย” กี่ครั้งแล้วหลังจากนั้นคุณอยากจะกรีดร้อง? หากเรามีขาที่ขาดหายไปหรือมีแผ่นตาปิดตาข้างหนึ่งหรือรถเข็นที่อยู่ข้างใต้เราคนจะมีแนวโน้มที่จะเห็นอกเห็นใจต่อความเจ็บป่วยเรื้อรังของเรา แม้แต่โรคไขข้อก็ยังได้รับความเคารพในโลกนี้เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาและผู้คนก็สามารถเห็นผลของการเจ็บป่วยที่มองเห็นได้ แล้ว fibromyalgia ล่ะ? โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง? แม้แต่หมอบางคนก็ยังสงสัยอยู่ เมื่อผู้ป่วยบ่นว่ามีอาการปวดอย่างกว้างขวางหรืออาการปวดข้อแพทย์อาจทำการทดสอบหลายชุดและกลับมาพร้อมใบสั่งยาสำหรับเตียรอยด์เพราะเขาไม่เห็นอะไรเลย พวกเราหลายคนเคยผ่านงานประจำมาหลายปีก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัย เฮคพวกเราส่วนใหญ่ต้องวินิจฉัยตัวเองและเราต้องนำข้อมูลไปหาหมอและขอการรักษา

ครอบครัวและเพื่อนของเราไม่ได้รับการยกเว้นจากความสงสัยเช่นนี้ พวกเขาสงสัยว่าทำไมเราจึงปิดการเชิญเข้าร่วมการชุมนุมในครอบครัวหรือทำไมเราถึงเลิกโยนบาร์บีคิวประจำปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากพวกเขาไม่เห็นเรากลิ้งไปบนรถเข็น พวกเราหลายคนสูญเสียเพื่อนและคู่สมรสเพราะเราไม่ได้ป่วยจริงๆ หรือชื่อเสียงของเราเป็นบ้าเพราะพวกเขาคิดว่าเรา "ขี้เกียจ" เกินไปที่จะทำอะไรอีกต่อไป แต่ "คุณไม่ป่วย"

ชาวอเมริกันเกือบ 1 ใน 2 คนมีอาการเรื้อรังและมองไม่เห็นความเจ็บป่วย 96% สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการความสะดวกสบายและการสนับสนุนสำหรับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากโรคที่มองไม่เห็นเรื้อรัง เมื่อไม่นานมานี้ฉันได้รับรู้ถึงสัปดาห์แห่งการตระหนักถึงการเจ็บป่วยเรื้อรังที่มองไม่เห็นแห่งชาติซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-16 กันยายน 2550 ตามโบรชัวร์ของ Invisible Illness Illness ที่จัดทำโดย Rest Ministries คำขวัญของพวกเขาคือ ช่วยเพื่อนยึดมั่นไว้” Invisible Illness Week เป็นเวลา“ กำหนดให้รู้จักกับความท้าทายรายวันของผู้ใหญ่และเด็กนับล้านที่อาศัยอยู่กับความเจ็บป่วยที่มองไม่เห็น”

คุณสามารถเยี่ยมชม //www.invisibleillness.com ในช่วงสัปดาห์นั้นสำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการออนไลน์กับแขกรับเชิญพิเศษ Lisa Copen ผู้ก่อตั้ง Invisible Illness Week Week จะให้วิทยากรในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการทำงานการศึกษาและการสร้างธุรกิจที่มีอาการป่วยเรื้อรัง หัวข้ออื่น ๆ รวมถึงวิธีการหลีกเลี่ยงการทำผิดพลาดทางการแพทย์และสิ่งที่เราควรรู้เกี่ยวกับแมกนีเซียม คุณจะสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาที่ตัดตอนมาจากหนังสือของเธอได้เช่น ‘Beyond Casseroles 505 วิธีในการสนับสนุนเพื่อนที่ป่วยเรื้อรัง' ใช่ Lisa Copen ได้เปิดทางให้ผู้ประสบภัยจากโรคที่มองไม่เห็นเรื้อรังมองเห็นซึ่งกันและกัน